วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เลื่อมลายรัก

๏ สายแดดสอดลอดปลายทอลายสวย
สายลมเรื่อยลัดโรยมารินรวย
ล้อมห่อด้วยสายใยผูกไว้รอ

แล้วกระหวัดจัดวางระหว่างรัก
เนิ่นนานนักหน่วงในอกใจหนอ
แผ่วสายลมผ่านเบาลงเคล้าคลอ
ลมก็ล้อแล้วลาสุดตาแล

มองม่านไม้พลิ้วไหวในเงาหม่น
ผ่าวเพลงมนต์เหมันต์หวั่นรอยแผล
หนาวลมเฉือนเชือดเตือนมาเชือนแช
ยังชะแง้ครุ่นละเมอชะเง้อคอย 

ผูกภาษาสานใจด้วยใยฝัน
ร้อยตะวันจันทร์พราวเอื้อมดาวสอย
ต่างแพรพรรณผืนผ้าโพยมพลอย
เลื่อมดาวลอยลายรักประจักษ์วาง

เป็นของขวัญด้อยค่าส่งมาให้
น้อยก็ใจไม่มากเงินอย่าเมินหมาง
วอนอย่าเลือนร้างไกลน้ำใจจาง
คิดถึงบ้างอย่างคนที่คุ้นเคย

นับแต่วันแรกประเชิญก็เนิ่นนัก
เอื้อนคำรักอย่างไรเล่าใจเอ๋ย
ลมหนาวแผ่วผ่านไปกระไรเลย
คงชิดเชยแต่ช้ำระกำทรวง

แว่วเสภาบรรเลงเพลงวสันต์
สะทกหวั่นขวัญร้าวหนาวลมหวง
เกรงหลงคำลมเพเล่ห์ลมลวง
สุดแสนห่วงแสนห่างอ้างว้างระทม

เพลงวสันต์ผันผ่านเหมันต์พ้อง
ยินเสียงร้องหรีดไพรเรไรประสม
ยังคร่ำครวญลั่นค่ำร่ำระงม
ยิ่มจ่อมจมจำเจเวทนา

หากเป็นได้ดุจธารละหานห้วง
จะไหลล่วงลัดลามไปตามหา
เป็นสายลมรินเรื่อยพัดเอื่อยมา
กล่อมกายาผ่อนกายให้คลายร้อน

เป็นฟางควันคุไฟให้ไออุ่น
ต่างหมอนหนุนม่านจวนนวลสมร
นุ่มเขนยอิงแอบยามแนบนอน
เป็นแพรผ้าอาภรณ์ประอรองค์

นี่เพียงกายหมายนุชก็สุดคิด
สุดจักหักห้ามจิตพิศวง
เพียงกาดำต่ำเทียมไม่เจียมพงษ์
ไหนเลยหงษ์ร่อนลงมาร่วมเรียง

ได้แต่เขียนแต่งคำทำภาษา
จารวาจาว่าวอนอ่อนศัพท์เสียง
ห่ออักษรแอบวางมาข้างเคียง
พอผ่อนเพียงทุกข์ทวีที่ใจเอย ฯ