วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เรไรร่อนร้อง : ปางพี่รักเจ้า


๏ ปางพี่รักเจ้าเฝ้าทวนเทวษถวิล
เหมือนสายธารน้ำใสเรื่อยไหลริน
รักแก่งหินเกินกาลจะราญลง
เหมือนปรอยฝนหล่นปลิวเป็นริ้วม่าน
รักแมกไม้ลดามาลย์ปานลุ่มหลง
หมู่เมฆขาวเคียงกันยังมั่นคง
รักท้องฟ้าธำรงมิเลือนเลย
คณนากว่าประเมินก็เกินนับ
จะขานรับก็ขาดคำร่ำเฉลย
จนถ้อยนักสุดจักหามาเปรียบเปรย
อย่าเฉยเมยมองหมางเหมือนอย่างเมิน
หากบินได้ดังวิหกที่ผกผิน
ก็จะบินดุจนกวิหกเหิร
พาเจ้าร่อนลมไปพักใจเพลิน
ล่วงดำเนินแดนด้าวดาวดึงส์
นี่เพียงกายหมายมาดก็ขาดสิ้น
แค่ลมลิ้นฤาคลายจิตความคิดถึง
เพียงสองขาสาใจให้คนึง
ลุ่มรักรึงร้อนทรวงรุมห้วงใจ
ต่อแต่นี้คงจมทุกข์เทวษ
อาณาเขตเนตรฤดีอยู่ที่ไหน
โปรดสำแดงให้เห็นหน่อยเป็นไร
ให้พี่ได้ก้าวไปในดวงตา
ห่างเหลือเกินระยะทางมาขวางกั้น
จักหมายมั่นมุ่งจิตคิดไปหา
ห่างเพียงกายทุรกรรมหานำพา
หวังเพียงว่าสองใจมิไกลกัน
วิบากกรรมชาติก่อนคงเคยพราก
แกล้งหมู่สัตว์มามากหลากอาถรรพ์
แยกลูกห่างอกแม่รังแกมัน
จึงถูกทัณฑ์ทรมานในวันนี้
แม้นดวงใจหาไม่อาลัยรัก
ด้อยค่านักเฉกเดนคิดเบนหนี
เบื่อคำหยาบสาบพจน์บทกวี
โปรดขยี้เข่นขย่ำให้หนำมือ
สุดแต่ใจคนดีปราณีรัก
หมายสมัครจักสมานให้นานหรือ
ตัดเยื่อใยต่อกันบั่นคามือ
ไม่ดึงดื้อแม้คำใจจำนน 
ก็จะไปตามประสาคนอาภัพ
เต็มใจรับชะตากรรมซ้ำกี่หน
ร่างกายคงกรำการด้วยทานทน
ใจทุรนคงตายแล้วแก้วตาเอย ฯ
Technorati Tags: